ขายของบนเว็บไซต์ social network และแพลตฟอร์ม E-marketplace แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร

Pixabay mohamed_hassan / 5393 images

            หลายธุรกิจในปัจจุบัน ให้ความสำคัญและคาดหวังกับตลาด E-Commerce มากขึ้น เนื่องจากมูลค่าทางการตลาดที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว จึงทำให้มีรูปแบบการขายสินค้าและบริการที่หลากหลายมากขึ้น โดย ตลาด E-Commerce  จะมีรูปแบบหลักอยู่ 3 รูปแบบคือ

  1. การขายสินค้าออนไลน์ผ่านหน้าเว็บไซต์โดยตรง
  2. การขายสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม Social Network
  3. E-marketplate

โดยทั้ง 3 รูปแบบนี้ จะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเราจะมาดูกันว่าแต่ละรูปแบบมีจุดเด่นอะไรกันบ้าง

  • การขายสินค้าออนไลน์ผ่านหน้าเว็บไซต์โดยตรง

            สำหรับรูปแบบการขายสินค้าออนไลน์ผ่านหน้าเว็บไซต์โดยตรงนั้น จะแตกต่างจากอีก 2 รูปแบบ นั่นคือเจ้าของธุรกิจจะเป็นเจ้าของเว็บไซต์โดยตรง ไม่ต้องผ่านผู้ให้บริการ โดยข้อดีของการขายสินค้าออนไลน์ผ่านหน้าเว็บไซต์โดยตรงนั้น เจ้าของเว็บไซต์สามารถปรับแต่งการให้บริการผ่านเว็บไซต์อย่างไรก็ได้ตามที่ต้องการ ทำให้สามารถนำเสนอสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • การขายสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม Social Network

            สำหรับรูปแบบการขายสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม Social Network ต่าง ๆ เช่น Facebook Line Instagram และอื่น ๆ จะต่างจากการขายสินค้าออนไลน์ผ่านหน้าเว็บไซต์โดยตรงเนื่องจากเจ้าของธุรกิจไม่ต้องลงทุนสร้างเว็บไซต์ แต่จะเป็นการใช้บริการขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม Social Network โดยจะพบในธุรกิจขนาดเล็กไปถึงขนาดกลาง ซึ่งข้อดีของรูปแบบดังกล่าวนี้คือ สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้ตรงเป้าหมายมากที่สุด อีกทั้งยังการรันตีว่ากลุ่มเป้าหมายเห็นผลิตภัณฑ์อย่างแน่นอน

  • การขายสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม E-marketplace

            รูปแบบการขายสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม E-marketplace คือการขายสินค้าผ่านผู้ให้บริการ E-marketplace ซึ่งในปัจจุบันมีอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น Lazada ,Shopee ,JD CENTRAL เป็นต้น ซึ่งรูปแบบดังกล่าวนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของธุรกิจเป็นอย่างมาก เนื่องจากลดภาระในการสร้างระบบหน้าร้านเอง อีกทั้งยังมีระบบที่ครบวงจรในแพลตฟอร์มเดียว จึงทำให้ธุรกิจไม่ว่าเล็ก กลาง หรือขนาดใหญ่ เข้ามาใช้บริการ แพลตฟอร์ม E-marketplace

จากข้อมูลที่กล่าวไปข้างต้น สามารถเปรียบเทียบออกมาเป็นตารางได้ดังนี้

คุณลักษณะเด่นการขายสินค้าออนไลน์ผ่านหน้าเว็บไซต์โดยตรงการขายสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม Social Networkการขายสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม E-marketplace
ระยะเวลาในการเริ่มต้นขายสินค้าใช้ระยะเวลานาน เนื่องจากต้องสร้างหน้าเว็บไซต์เองใช้ระยะเวลาสั้น เนื่องจากวางขายสินค้าได้เลยใช้ระยะเวลาสั้น เนื่องจากวางขายสินค้าได้เลย
ค่าใช้จ่ายมีค่าใช้จ่ายสูงในการเริ่มต้นสร้างหน้าเว็บขายสินค้า แต่เป็นการจ่ายเพียงแค่ครั้งเดียวมีค่าใช้จ่ายต่ำในการเริ่มต้นขายสินค้า แต่จะมีค่าใช้จ่ายในระยะยาวมีค่าใช้จ่ายต่ำในการเริ่มต้นขายสินค้า แต่จะมีค่าใช้จ่ายในระยะยาว
การเข้าถึงลูกค้าเข้าถึงลูกค้าได้ยากกว่า เนื่องจากต้องสร้างโฆษณาดึงลูกค้าเข้ามาสามารถเพิ่มค่าบริการเพื่อเข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่สุดสามารถเพิ่มค่าบริการเพื่อให้สินค้าอยู่ลำดับต้นๆในการค้นหา
การใช้งานในระยะยาวมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้มีระยะเวลาในการวางขายสินค้า หรือโฆษณาที่สั้น มีค่าบริการในการวางสินค้ามีระยะเวลาในการวางขายสินค้า หรือโฆษณาที่สั้น มีค่าบริการในการวางสินค้า
ความยืดหยุ่นของการขายสินค้ามีความยืดหยุ่นมากกว่า เนื่องจากระบบหน้าเว็บออกแบบเองมีความยืดหยุ่นน้อยกว่า และอาจต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มหากต้องการเพิ่มฟังก์ชันมีความยืดหยุ่นน้อยกว่า และอาจต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มหากต้องการเพิ่มฟังก์ชัน

            จากข้อมูลเปรียบเทียบในตารางจะพบว่า แต่ละรูปแบบมีข้อดี ข้อเสียที่ต่างกันออกไป ทำให้ธุรกิจมักจะใช้ทั้ง 3 รูปแบบเพื่อดึงจุดเด่นของแต่ละรูปแบบออกมาให้มากที่สุดนั่นเอง